Posted by : SilverXonic วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แบบจำลอง OSI (THE OSI MODEL)
หน่วยงาน ISO (International Standards Organization) ก่อตั้งในปี1947 เป็นองค์กรนานาชาติทำหน้าที่ตกลงเกี่ยวกับข้อกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมเกี่ยวกับเครือข่ายการสื่อสาร เรียกว่าแบบจำลอง OSI (Open Systems Interconnection Model) หรือ OSI Model เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 1970

สถาปัตยกรรมของเลเยอร์ (Layered Architecture)
การสื่อสารระหว่างจุดเชื่อมต่อระดับเดียวกัน (Peer-to-Peer Process) จะเป็นการโต้ตอบภายในชั้นเดียวกันภายใต้ Protocol ที่นิยามเฉพาะสำหรับชั้นนั้น ซึ่งมีจุดเด่นที่สำคัญในแง่ของความยืดหยุ่น (Flexibility) และความโปร่งใส (Transparent) ระหว่างชั้น ดังรูป


Layer 1: Physical Layer
Layer นี้ รับผิดชอบในการส่ง “กลุ่มของบิต (Bit Stream)” จาก Node หนึ่ง ไปยังอีก Node หนึ่ง และนอกจากนี้ ยังทำหน้าที่เชื่อมต่อผ่าน Physical Medium รับผิดชอบแปลงบิตเป็นสัญญาณ เรื่องของการ Interface, สายนำสัญญาณ ,มองเห็นข้อมูลในลักษณะ Bit Stream

Layer 2: Data Link Layer
Layer นี้ รับผิดชอบ การควบคุมการถ่ายโอนข้อมูลระหว่าง Node เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด โดยทำหน้าที่
- บริหารจัดการ การใช้ตัวกลาง (Access Control) ณ เวลาใดๆ ในกรณีมีการใช้งานร่วมกัน
- ระบุ Node ถัดไป (H2) ในการส่ง Bit Stream/Frame(ปณ. ปลายทาง ถ้าอยู่นอกเครือข่าย)
- ควบคุมอัตราการไหลของข้อมูล (Flow Control) และแก้ไขข้อผิดพลาด (Error Control) (T2)
- ถ้าหากมีการสูญหายของเฟรมข้อมูล ซึ่งอาจเนื่องมาจากสัญญาณรบกวนจากภายนอกหรือข้อผิดพลาดอื่นๆ ในกรณีนี้ฝ่ายผู้ส่งจะต้องส่งเฟรมข้อมูลเดิมออกมาใหม่

Layer 3: Network Layer
Layer นี้ รับผิดชอบในการส่ง “ข้อมูล” จาก Node ต้นทางไปยัง Node ปลายทาง (อาจอยู่ต่าง Network ได้) โดยสมบูรณ์
- Logical Addressing คือ ระบบการกำหนดหมายเลขตำแหน่ง (ของ Node)เพื่อให้สามารถแยกแยะ Node ต่าง Network ได้ (เช่น IP Address)
- Routing คือ ระบบการกำหนดเส้นทางลำเลียงข้อมูลจากต้นทาง-ปลายทาง

Layer 4: Transport Layer

Layer นี้ รับผิดชอบการส่งข้อมูลให้ถูกต้องจากต้นทางถึงปลายทาง(End-to-End), จัดการในเรื่อง Error และ Flow Control ในระดับต้นทางถึงปลายทาง ข้อมูลที่ส่งจะถูกแบ่งเป็น Segment

Layer 5: Session Layer
Layer นี้ ทำหน้าที่จัดตั้ง ดูแล การเชื่อมต่อ(Connection) ระหว่าง Application ต้นทางและปลายทาง แบ่งการเชื่อมต่อสื่อสารออกเป็น Session

Layer 6: Presentation Layer

Layer นี้ รับผิดชอบในเรื่องรูปแบบและ Format ของข้อมูล การทำ Encryption รวมถึงการทำ Data Compression ให้อยู่ในรูปแบบที่สื่อสารได้ เพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการรับส่ง และสามารถเข้ารหัสเพือเป็นการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลได้อีกด้วย

Layer 7: Application Layer
Layer นี้ ทำหน้าที่เชื่อมต่อกับ Application และผู้ใช้ มีบริการทางด้านโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆได้แก่ email, file transfer, remote job entry, directory services นอกจากนี0ยังมีการจัดเตรียมฟังก์ชั่นในการเข้าถึงไฟล์และเครื่องพิมพ์ซึ่งเป็นการแบ่งปันการใช้ทรัพยากรบนระบบเครือข่าย

credit : science.yru.ac.th/~ppb/4112325/2_NetworkArchitecture.ppt

Leave a Reply

Subscribe to Posts | Subscribe to Comments


Popular Post

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

- Copyright © Monster Mickey -Metrominimalist- Powered by Blogger - Designed by Johanes Djogan -